บทที่ 1
บทนำ
1. ที่มาและปัญหาของโครงงาน
การจักสานจากไม้ไผ่มีทำกันมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย
โดยอาศัยไม้ไผ่ที่ขึ้นอยู่ทั่วไปในป่าเมืองไทยซึ่งมี
อยู่ประมาณ ๑๐๐ ชนิด
แต่ที่นิยมนำมาจักสานกัน ได้แก่ ไม้ไผ่ใหญ่ ที่คนนิยมนำมาปลูกไว้รอบ ๆ หมู่บ้าน เพื่อใช้หน่อเป็นอาหารและใช้ลำต้นมาดัดแปลงทำเครื่องใช้ต่าง
ๆ ที่จำเป็นภายในครอบครัวเช่น ตะกร้า ชะลอม กระออม กระด้ง ตะแกรง กระเชอ ลอบ ไซ
กระติบข้าว หวด หรือมวยนึ่งข้าว ครุ เป็นต้น เครื่องใช้ต่าง ๆ ที่กล่าวมา
ข้างต้นในสมัยก่อนนิยมทำใช้กันเองภายในครอบครัว ตามความจำเป็นของแต่ละท้องถิ่นและ
การจักสานแต่ละอย่างมีกรรมวิธีที่แตกต่างกัน ยากบ้างง่ายบ้าง
ดังนั้นแต่ละคนจึงมีความถนัดใน การทำไม่เหมือนกัน
จึงได้เกิดมีการผลิตเพื่อแลกเปลี่ยนกันขึ้น พอมาช่วงหลัง ๆ ไม้ไผ่หายากขึ้น
และคนมีงานอื่นทำที่มีรายได้ดีกว่าก็หันไปทำงานอย่างอื่นแทนจึงยังคงเหลืออยู่เพียงบางคนหรือบางกลุ่มเท่านั้นที่มีความถนัดทางจักสานเป็นพิเศษหันมายึดอาชีพทางการจักสานเป็นอาชีพหลัก
บางคนก็ยึดเป็นอาชีพพรองจากการทำไร่ ทำนา โดยอาศัยทำในเวลาว่าง
ตอนเย็นหรือกลางคืนที่กลับ จากไร่นาแล้ว เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัวอีกทางหนึ่ง
การจักสานจากไม้ไผ่นั้นสามารถ นำมาดัดแปลงทำเครื่องใช้ได้หลายอย่าง
ดังที่กล่าวมาแล้ว สาเหตุสำคัญที่นิยมนำเอาไม้ไผ่มา จักสานก็เพราะว่าไม้ไผ่หาง่าย
ไม้แปรรูปได้ง่ายมีความเหนียวสามารถจักเหลา แต่ง ได้หลายขนาด ง่ายแก่การตัด แต่ง
ง่ายต่อการนำมาประกอบกันเป็นรูปทรงตามที่ต้องการ
ในการทำโครงงานเรื่องนี้
เนื่องจากว่างานจักสานประเภทกระด้งนั้นมีมาตั้งแต่ในสมัยโบราณ
ในสมัยก่อนนั้นกระด้งเป็นอาชีพหนึ่งของคนไทยซึ่งมีความจำเป็น เป็นอย่างมากเช่น
ฝัดข้าว ตากอาหาร เป็นต้น เพราะฉะนั้นโครงงานเรื่องนี้น่าจะเหมาะสมที่สุดที่จะทำโครงงาน
2. วัตถุประสงค์ของโครงงาน
1. เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมให้คงนาน
2.
เพื่อรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทย
3. เพื่อเสริมทักษะ
4. เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพ
3. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.
ได้รู้วิธีการจักสานตะกร้าด้วยไม้ไผ่
2. ได้ตะกร้าไว้ใช้
4.
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.
มีรายได้ระหว่างเรียน
2.
ส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์
3.
มีประสบการณ์ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์
4.
ความพึงพอใจของผู้บริโภค
5.นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
6.มีประโยชน์ในการใช้งานมากขึ้น
7.ได้รับความรู้